* * * MY...LIFE* * *

Welcome to my blog ***sirigate15.blogspot.com***

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550

ความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการเรียนรู้


.......ดิฉันคิดว่า การจัดการศึกษายุคนี้เป็นยุคของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแท้จริงซึ่งได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้ใหม่และเปลี่ยนแปลงความต้องการในการศึกษาในอนาคต สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศแบบใหม่เข้ามาแทนที่แบบเก่า ดังนั้นผู้ที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องนี้ให้มาก ๆ เพราะหากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้แล้วก็จะเป็นผู้ที่ล้าสมัย ไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาแบบใหม่


.......ในอนาคตเครือข่ายการเรียนรู้ที่มีบทบาทสำคัญมาก ก็คือเครือข่ายในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นหลักในการแสวงหาจากระบบเดิมที่เน้นให้ครูเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนเปลี่ยนเป็นระบบที่ครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะหรือเป็นที่ปรึกษาในสาขาวิชาที่สอนโดยผ่านทางเครือข่าย โดยที่ต้องเป็นผู้แสวงหาด้วยตนเองต้องกระตือรือร้นและตื่นตัวอย่างตลอดเวลา ดิฉันดีใจที่ได้ศึกษาในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายการเรียนรู้ในวิชานี้เนื่องจากเหตุผลข้างต้นที่ว่าในอานาคตระบบคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่มีบทบาทมากในการประกอบอาชีพครูของดิฉัน

.......การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเปิดช่องทางไปสู่แหล่งความรู้ต่างๆได้ทั่วโลก ก็เป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้และรับความรู้จากโลกภายนอก หากเราได้ใช้เป็นประจำและเรียนรู้ในห้องเรียนที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์แสดงภาพวิดีโอโปรเจคเตอร์เชื่อมเข้าสู่ระบบเครือข่ายและระบบอินเตอร์เน็ต ในอนาคตโรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะมีศูนย์เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนเป็นสถานที่ที่ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการค้นคว้าหาความรู้

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550

บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศ

........ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เราเป็นอันมากเทคโนโลยีจึงได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพ มีมาตรฐานและยังสามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา

.........พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนิดมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา

..........ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง และสังคมเมืองทำให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต การผลิตทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจำนวนมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทำให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา:http://gotoknow.org/blog/IMA492090/50733

ความหมาย"เทคโนโลยีสารสนเทศ"

เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวางมาก

เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วยเทคโนโลยีสำคัญสองสาขา คือ
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
2. เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม

เครือข่ายการเรียนรู้

เมื่อนำระบบเครือข่ายการเรียนรู้เข้ามาใช้กับระบบการศึกษา ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมากมายในวงการศึกษา ทั้งในด้านรูปแบบการเรียนการสอน บทบาทของผู้สอน บทบาทของผู้เรียน ดังนี้

***1. รูปแบบการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียนเป็นหลักในการแสวงหา ค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองมากขึ้นจาก แหล่งสารสนเทศต่างๆ ทั่วโลกและจากสื่อหลากหลายประเภทนอกเหนือจากหนังสือรวมทั้งสามารถเลือกเวลาและ สถานที่ในการศึกษาได้เองและสามารถเลือกบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญที่สนใจในการปรึกษาขอคำแนะนำได้ โดยผ่านระบบเทคโนโลยี ซึ่งต่างจากระบบเดิมที่เน้นรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิงโครนัส คือ มีการจัดตารางสอน วิชาเรียนและกำหนดสถานที่เรียนไว้เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรภายในโรงเรียนอย่างเต็มที่

***2. บทบาทของผู้สอนจากระบบเดิมที่เน้นให้ครูเป็นจุดศูนย์กลางของการเรียนการสอนเปลี่ยนไปสู่ระบบที่ครู เป็นเพียงผู้ชี้แนะหรือเป็นที่ปรึกษาในสาขาวิชาที่สอนโดยผ่านทางเครือข่าย ดังนั้นครูจึงจำเป็นต้องค้นหาวิธีการสอนใหม่ๆ ข้อมูลและอุปกรณ์เพื่อนำมาใช้ในการสอนอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองโดยผ่านระบบเครือข่าย

***3. บทบาทของผู้เรียนเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมที่นักเรียนเป็นเพียงผู้รับฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของครูไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นมากนัก รับฟังความรู้ความคิดเห็นจากครูเป็นหลักไปสู่ระบบที่นักเรียนต้องเป็นผู้แสวงหาด้วยตนเอง ต้องกระตือรือร้นและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าของวิทยาการ และสนองต่อความต้องการเรียนรู้ด้วยตนเองได้มากขึ้น โดยมีครูเป็นเพียงที่ปรึกษาแนะแนวทางในการศึกษาค้นคว้า

***4. บทบาทของการเรียนการสอนมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้โดยเฉพาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดช่องทางไปสู่แหล่งความรู้ต่างๆได้ทั่วโลก

***5. ห้องเรียนสำหรับผู้สอนประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอน คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ แสดงภาพ วิดีโอโปรเจคเตอร์ เชื่อมเข้าสู่ระบบเครือข่ายและระบบอินเทอร์เน็ต

***6. ศูนย์เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนเป็นสถานที่ที่ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการ ค้นคว้าเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายภายในสถาบันการศึกษารวมทั้งสามารถใช้ผ่านโมเด็มจากบ้านของผู้เรียนเข้าสู่ เครือข่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

***7. ฐานบริการข้อมูลการเรียนเป็นที่เก็บข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่อยู่ในรูปของตัวอักษร รูปภาพ และเสียงซึ่งผู้เรียนสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาประกอบด้วย

.....7.1 ฐานบริการเว็บ จัดเก็บข้อมูลเนื้อหา ตำรา วิชาการ ในรูปของอักษร ภาพ และเสียง

.....7.2 ฐานบริการ Real Audio เป็นสถานี วิทยุเพื่อการศึกษาบนเครือข่าย

.....7.3 ฐานบริการ Real Video เป็นสถานีบริการทีวีออนดีมานด์

.....7.4 ฐานบริการกระดานข่าว(Web board)เป็นสถานีบริการจัดแสดงข่าวสารที่บุคคลต้องการประกาศ

.....7.5 Virtual library และ Digital library เป็นระบบห้องสมุดบนเครือข่าย เป็นแหล่งเก็บข้อมูลข่าวสารวิชาการต่างๆ ที่สามารถเรียกใช้งานเครือข่ายได้และสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ทั่วโลก

***8. Student Homepage เป็นที่เก็บข้อมูลข่าวสารของนักเรียน และส่งการบ้านให้ครูตรวจได้โดยแจ้ง pointer บอกตำแหน่งให้ครูทราบ

งานที่อ.ชวนหมอบหมาย

ครูขอกำหนดงานเพื่อให้ทุกคนได้ฝึกการทำงานดังนี้
งานกลุ่ม
***ให้นักศึกษารวมกลุ่มๆละ 4-5 คน แล้วอภิปรายในประเด็นต่อไปนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ"ในแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาในกลุ่ม ซึ่งอาจในประเด็น ประโยชน์ที่ได้รับ ข้อพึงปฏิบัติ ข้อจำกัดในการใช้งาน หรืออื่นๆ
2. นักศึกษาเข้าใจว่า "แหล่งและเครือข่ายการเรียนรู้" ในปัจจุบันจะทำรูปแบบในการเรียนการสอนในโรงเรียนมีการเปลี่ยนไปหรือไม่? เพราะอะไร?( เมื่อใช้กระบวนการกลุ่ม ได้คำตอบตามประเด็นแล้ว สรุปรายละเอียดส่งในE-mailto:mail:chipp49@gmail.com(ไม่ต้องแนบfileมากับ mail)

งานเดี่ยว
**** ให้นักศึกษาทุกคน ทำหน้าแรก (Homepage) อย่างง่าย หรือ webblogโดยมี ข้อมูลตนเอง ที่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ (ให้อิสระกำหนดเอง)และให้แสดงความคิดเห็นของตนเองในประเด็นที่เกี่ยวกับเครือข่ายการเรียนรู้และเทคโนโลยีสารสนเทศ ในแง่มุมที่ตนเองสนใจ
(แล้วแจ้ง Homepage หรือ webblog ของตนเองให้ครูผ่าน E-mail:chipp49@gmail.com )